Wednesday, October 5, 2011

Unseen Thailand: ดาวบนดิน เทศกาลแห่ดาว จ.สกลนคร





อีกไม่กี่วัน จะมีดาวบนดินสว่างไสวสวยงาม ให้เยี่ยมชม
ใครเบื่อไปดูไฟที่กทม.ก็น่ามาลองชมดาวต่างจังหวัดดูบ้างนะคะ
มาชวนไทยเที่ยวไทยกันค่ะ
ขอยืมข้อมูลมาแบ่งปันค่ะ



"...ค่ำคืนวันฉลองเทศกาลคริสต์มาส คนเมือง
สกลนครเขาจินตนาการ ดาวบนท้องฟ้า
เอามาแห่อยู่บนดิน เป็นเทศกาลรื่นเริง
สนุกสนานกว่าที่ไหนในเมืองไทย..."




ตำบลท่าแร่ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร คือบ้านของชุมชน ชาวคริสต์คาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย วันคริสต์มาสของที่นี่ ชาวคริสต์จะประดิษฐ์ดวงดาวกระดาษขนาดน้อยใหญ่ประดับประดาด้วยดวงไฟหลากสีสัน นำไปตกแต่งขบวนรถ ประดับประดายามราตรีอย่างสวยงาม และแห่เฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ สนุกสนาน เรียกว่า "เทศกาลแห่ดาว" นับได้ว่าเป็นขบวนแห่เหนือจินตนาการซึ่งเล่าขานกันว่า งามที่สุดในเมืองไทย



ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงหัวค่ำของคืนวันคริสต์มาส
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : วันคริสต์มาสของทุกปี
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร





เทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส สกลนคร
วันที่ 24-25 ธันวาคม 2553
สำนักมิสซังท่าแร่ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร




"ขบวนแห่ดาวคริสต์มาส” เป็นกิจกรรมที่นิยมปฏิบัติกันในคืนวันคริสต์มาส หรือ 25 ธันวาคม ของทุกปี ชุมชนชาวคริสต์จะประดิษฐ์ดาวขนาดใหญ่และประดับประดาด้วยดวงไฟวิทยาศาสตร์
หลากสีสัน และนำดาวนั้นไปตกแต่งในขบวนรถที่ประดับประดาอย่างสวยงามตามแต่จินตนาการ

ส่วนใหญ่สื่อถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประสูติของพระเยซู เช่น การตกแต่งและจำลองบรรยากาศของขบวนให้เป็นถ้ำ อันเป็นสถานที่ประสูติของพระเยซู และในบางขบวนจะใช้คนประกอบแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับการประสูติฯ เพื่อให้ดูน่าสนใจและสมจริง

สำนักมิสซังท่าแร่หนองแสงก็สวยมากๆค่ะ

ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสของทุกปี ชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิค ใน 4 จังหวัดภาคอีสาน ที่ประกอบด้วย สกลนคร นครพนม มุกดาหาร และกาฬสินธุ์ โดยมีอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง (สำนักมิสซังท่าแร่ฯ)ดูแลรับผิดชอบคริสตศาสนา จะรวมตัวกันจัดประเพณี“แห่ดาว”ขึ้น เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสอย่างยิ่งใหญ่
     
       ทั้งนี้จะมีการประดับตกแต่งโคมไฟรูปดาวไว้ที่หน้าบ้าน ซึ่ง“ดาว”ถือเป็นสัญลักษณ์ของการเสด็จลงมาประสูติบนโลกมนุษย์ของพระเยซูองค์ ศาสดา นอกจากนี้ยังมีอีกสีสันหนึ่งของเทศกาลนี้ก็คือ ขบวนแห่ดาวที่ทำจากดวงไฟวิทยาศาสตร์สีสันสวยงาม
     
       และหากพูดถึงประเพณีแห่ดาวช่วงคริสต์มาสแล้ว ที่นี่ถือนับเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีการจัดงานเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ โดยปีนี้จะจัดที่มิสซังโรมันคาทอลิกท่าแร่-หนองแสง ที่เป็นเขตปกครองของคริสตชนคาทอลิก ครอบคลุมใน 4 จังหวัด คือ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร และ กาฬสินธุ์
     
       ทั้งนี้การแห่ดาว เป็นกิจกรรมหนึ่งในเทศกาลคริสต์มาส เพื่อระลึกเหตุการณ์ที่บรรดาโหราจารย์ได้ติดตามดาวประหลาดดวงหนึ่ง เพื่อไปพบสถานที่ประสูติของพระเยซูเจ้าที่แบธเลเฮม
     
       สำหรับวิวัฒนาการของการแห่ดาวนั้น ในระยะแรกเริ่มนั้น คริสตชนจะเดินแห่ โดยที่มือมีไม้ที่มีดาวดวงเล็กแขวนอยู่ ซึ่งใช้แสงจากการจุดเทียนและเดินแห่รอบโบสถ์ ขณะเดินแห่ก็ร้องเพลงคริสต์มาส สลับกับการสวดภาวนาก่อนเริ่มพิธีกรรม ภายหลังได้วิวัฒนาการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย จากการเดินแห่มาใช้ สามล้อปั่น รถจักรยานยนต์ รถยนต์แห่ ตามลำดับ และประดับประดาดาวและรถยนต์ให้ประณีต สวยงาม และสร้างสรรค์
     
       กระทั่งในปี ค.ศ. 1980 มุขนายกคายน์ แสนพลอ่อน(พระสังฆราชคนก่อน) ได้ริเริ่มการแห่ดาวและประกวดดาวขึ้นในตัวจังหวัดสกลนคร ได้พัฒนาการแห่ดาวจาก 20-30 ขบวนรถยนต์ มาเป็น 200 ขบวน พร้อมกับการประดับตกแต่งให้สวยงามตระการตายิ่งขึ้นในระยะ 25 ปี
     
       ก่อนที่ในปี ค.ศ. 2003 – 2004 งานเทศประเพณีแห่ดาวครั้งที่ 23 และ 24 ถูกยกระดับขึ้นเป็นประเพณีระดับจังหวัดอย่างเป็นทางการ โดยอาศัยความร่วมมือกันระหว่างมิสซังโรมันคาทอลิคท่าแร่-หนองแสง กับผู้ว่าราชการจังหวัดและองค์กร หน่วยงานทางจังหวัด นอกจากนั้นมิสซังโรมันฯ ยังได้รับปัจจัยสมทบช่วยเหลือจากองค์กร หน่วยงานต่างๆจากทางจังหวัดและท้องถิ่นอีกด้วย
สำหรับประเพณีการแห่ดาวนั้น นอกจากเป็นการเสริมสร้างบรรยากาศงานฉลองคริสต์มาส สืบสานงานประเพณีและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดแล้วยังเป็นการเสริม สร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันของบรรดาศาสนิกชนทั้งในเขตจังหวัดสกลนครและ จังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย ซึ่งผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสกลนคร โทร. 0-4271-6247,สำนักมิสซังท่าแร่ - หนองแสง โทร. 0-42 71-1272,ททท. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเขต 4 โทร. 0-4251-3490-92
:::::::::::::
ภาพและข้อมูลทั้งหมด จากเวปสนุกดอทคอม และททท.นครพนมค่ะ
เครดิต ตามลิงค์เลย

http://www.teepakdd.com/index.php?name=webboard&file=read&id=58-&page=2

http://travel.sanook.com/



No comments:

Post a Comment