|  | ฮอลแลนด์ แสนสุข ตอน อัมสเตอร์ดัม บ้านหนูแอน และพิพิธภัณท์ เซ็กซ์์
 
 บล็อกนี้อัพวันที่5/06/10 ค่ะ
 พรุ่งนี้ไม่อยู่เลยขออัพคอมโบเลยนะจ้ะ
 ::::::::::::::::::::::::
 
 ทริปยุโรปใกล้จาจบแล้ว
 พรุ่งนี้(23/09/09) ก้อจะกลับอังกฤษเสียที
 
 ข้อมูลท่องเที่ยวอัมสเตอร์ดัม..เวปทางการค่ะ
 Visit I amsterdam
 http://www.iamsterdam.com/
 :::::::::::::::::::::::
 
  เช้านี้ลงจากรถเมล์ก็มาเจอช้างอาร์ต...ตัวสีน้ำเงินนี่มาจากไทยแลนด์นะคร๊า
 ปรบมือๆๆ แปะ แปะ แปะ
 
 Ann Frank Huis Museum
 
 เป็นพิพิธภัณท์ของแอนน์ แฟรงค์
 เป็นไดอารี่ของเด็กอายุสิบขวบ ชาวยิว ที่เกิดที่เยอรมันในช่วงสงครามโลก
 และเป็นช่วงที่ฮิีตเลอร์กวาดล้างชาวยิว ทำให้ครอบครัวของเธอ ต้องอพยพไปอยู่เนเธอร์แลนด์
 ที่ๆครอบครัวของเธอและอีกครอบครัวต้องอยู่เหมือนคนไร้ตัวตน ในบ้านหลังเล็กๆนั้น
 เพื่อซ่อนตัวจากทหารและเป็นช่วงเวลาที่เธอได้ใช้กระดาษปากกาถ่ายทอดประสบการณ์และจินตานาการของเธอลงไปในไดอารี่
 หลังจากที่แอนน์เสียชีวิตในค่ายกักกัน พ่อของเธอผู้รอดชีวิตคนเดียวของครอบครัว
 ก็ได้พบไดอารี่เล่มนั้น และมันกลายเป็นหลักฐานสำคัญของประวัติศาสตร์ช่วงนั้นได้เป็นอย่างดี
 ประวัติเต็มๆอ่่านได้ที่
 http://www.annefrank.org/en/Anne-Franks-History/Life-in-Germany/
 
 
  
 
 เอาละ ตัวหนังสือเยอะไปแล้ว ดูรูปๆ
 
 อาหารเช้าวันนี้(ลืมบอก โฮสเทลมีอาหารเช้าด้วยนะฮิ)
 
  
 เรานั่งรถรางชมเมือง..ที่นีแปลกดี เพราะมีห้องคนขายตั๋วด้วยอะ
 
  
 ก่อนลงต้องแต๊บลงนะ ประตูกั้นถึงจะเปิด
 
  ถึงแล้วจ้ะ
 คิวยาวจริงๆ
 
  
 ระหว่างรอคิว..เหมือนลายแม่เหล็กติดตู้เย็นเลยอะ
 
  
 กฎระเบียบต่างๆ
 
  
 อยากให้เมืองไทยมีแบบนี้..โบชัวร์หลายภาษา
 
  
 เสียดายเค้าไม่ให้ถ่ายรูปเลยอดจ้ะ แต่ถ้าสนใจก็ลองดูเวปค่ะ
 บ้านที่เนเธอร์แลนด์
 ปัจจุบันได้ปรับปรุงใหม่เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวแฟนหนังสือของเธอจากทั่วโลก
 http://www.annefrank.org/en/
 
 ปล.เนื้อหาที่พิมพ์นี่ไม้ได้แปลจากเวปทั้งหมดนะ เพราะเอมเคยอ่านการ์ตูนเรื่องแอนน์แฟรง
 เลยจำเรื่องราวคร่าวๆ ได้ คิดว่าถ้าแอนยังไม่ตายก็คงดังพอๆกะเจ เค โรวลิ่งแน่ๆ
 แต่นะ ใครจะไปรู้ว่า วันนึงไดอารี่เล็กๆของเราจะได้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์เหมือนแอน
 
 ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
 
  ชมอัมสเตอร์ดัมตอนกลางวันบ้าง..ร้อนเหมือนกันแฮะ
 คิดถึงเมืองจีน(อีกแล้ว) เพราะเมืองนี้คนสูบบุหรี่และขี่จักรยานกันขวักไขว่
 แต่นี่มีออปชั่นที่จีนไม่มี..(หรือมีเอมหวานไม่รู้)...นั่นคือ...
 
 Sex Museum
 เป็นไฮไลทของทริปนี้..หรือประเทศนี้ ฮ่าๆ
 เพราะเอมหวานที่แสนจะเรียบร้อย(ตรงไหน)
 ตื่นตาตื่นใจมากเก็บภาพ..เท่าที่กบว.จะอนุญาตมาฝาก
 
 
  ตรงบันได(ภาพกลาง)...เดินๆอยู่มีเสียงตด..ปู๊ดดดด
 เอิ่มม ตกใจกันพักนึง..ดีนะไม่มีกลิ่นตามมา ฮ่าๆ
 
 
  ภาพบนซ้าย..อุปกรณ์สร้างสีสันในการร่วมเพศ...อืม..คู่รักสนใจไหมจ้ะ
 มารีลีน มอนโรว..ภาพล่างซ้าย คือสัญลักษณ์หนึ่งของผู้หญิงเซ็กซี่ในยุคนั้น
 ภาพล่างขวา..ศิลปะที่เกี่ยวกับการร่วมเพศของจีน และญี่ปุ่น(ศิลปะตะวันออก)
 ภาพกลาง..ดูให้มันเป็นศิลปะนะพี่น้อง หึหึ
 
 
  เดินตลาดนัดและชมเมืองกันจนเย็น..ใจอยากเที่ยวเมืองบ้านนอกๆกว่านี้อะค่ะ
 เพราะขึ้นชื่อว่า"เมือง" ก็คือ"ช้อปปิ้ง" แบรนด์ต่างๆซึ่งก็ครือๆกันนะในความรู้สึกเอม
 
 อีกเหตุผลหนึ่งคือ เราชอบดอกไม้ของฮอลแลนด์ม๊ักมากกกก
 
  
 ขากลับแวะเบลเยี่ยมค่ะ
 แต่ภาพมันเยอะ..อีกแล้ว..หึหึ
 งั้นขอยกไปเล่าบล็อกหน้าเจ้าค่ะ
 :::::::::::::::::::::::
 :::::::::::::::::::::::::
 thanks frame:K. Kungguenter
 
 
 |  | 
No comments:
Post a Comment